ไขข้อสงสัย ! เครื่องเป่ามือ เป่าแห้งได้จริงไหม ? พร้อมเทคนิคการเลือกเครื่องเป่ามืออัตโนมัติ ควรดูอะไรบ้าง

หลายคนอาจสงสัยว่า “เครื่องเป่ามืออัตโนมัติ” ที่เห็นตามห้าง โรงแรม หรือห้องน้ำสาธารณะนั้น เป่าแห้งได้จริงไหม? แล้วแบบไหนถึงจะดีและคุ้มค่าที่สุด วันนี้เรามีคำตอบและเทคนิคดี ๆ มาฝากกันค่ะ 💨
เครื่องเป่ามือ (Hand Dryer) เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นมากในปัจจุบัน หลังจากช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เพราะสามารถรักษาสุขอนามัย และลดทรัพยากรณ์สิ้นเปลืองอย่างกระดาษเช็ดมือ โดยเฉพาะเครื่องเป่าแห้งมือที่ใช้ระบบอัตโนมัติ ไร้การสัมผัส เพียงแค่วางมือผ่านเซนเซอร์ใต้เครื่อง หรือภายในตัวเครื่อง ระบบก็จะสามารถเริ่มทำงานได้เอง โดยไม่ต้องมีการสัมผัสที่ทำให้เสี่ยงเพิ่มขึ้นเลย

ทำไมควรใช้เครื่องเป่ามือ หลังล้างมือทุกครั้ง ?

หลายคนอาจคิดว่า “ล้างมือสะอาดแล้ว ไม่ต้องเป่าก็ได้” แต่รู้ไหมว่า… “มือที่ยังเปียกอยู่” อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้มากกว่าที่คิด!
การทำให้มือแห้งสนิทหลังล้างมือจึงเป็นขั้นตอนสำคัญไม่แพ้การล้างมือเลยทีเดียว ✨

🦠 มือเปียก = เชื้อโรคแพร่กระจายง่าย

เมื่อมือยังเปียกหรือชื้น เชื้อโรคต่าง ๆ เช่น แบคทีเรียและไวรัส สามารถเกาะติดได้ง่ายและอยู่รอดได้นานกว่า
โดยมีงานวิจัยพบว่า มือที่ยังชื้นมีโอกาสแพร่เชื้อได้มากกว่ามือที่แห้งถึง 10 เท่า! ดังนั้น การทำให้มือแห้งจึงช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้จริง

💨 เครื่องเป่ามือช่วยให้สะอาด ปลอดภัย และสะดวกกว่า

1. ไม่ต้องสัมผัสพื้นผิวใด ๆ
   เครื่องเป่ามืออัตโนมัติใช้ระบบเซ็นเซอร์ ทำงานโดยไม่ต้องกดปุ่ม ลดโอกาสสัมผัสเชื้อโรคจากผิวเครื่องหรือกระดาษ
2. ลมแรง แห้งเร็ว
   เครื่องเป่ามือรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีลมแรงความเร็วสูง ช่วยให้มือแห้งภายใน 10–15 วินาที สะดวกและรวดเร็ว
3. ถูกสุขอนามัยมากกว่า
   รุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA Filter จะกรองอากาศก่อนเป่าออก ทำให้ลมที่ออกมาสะอาด ลดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค
4. ลดขยะจากกระดาษทิชชู่
   ช่วยประหยัดทรัพยากร ลดขยะในห้องน้ำ และรักษ์โลกมากขึ้น 🌱

🧠 ทำไมการ “ปล่อยให้มือแห้งเอง” ถึงไม่พอ?

การรอให้แห้งเองหรือเช็ดกับเสื้อผ้าไม่เพียงไม่สะอาด แต่ยังอาจนำเชื้อโรคกลับมาสู่มืออีกด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ เสื้อหรือกางเกงอาจมีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น การใช้เครื่องเป่ามือจึงเป็นทางเลือกที่ สะอาด ปลอดภัย และเหมาะกับสุขอนามัยที่สุด

เครื่องเป่ามืออัตโนมัติ เป่ามือแห้งได้จริงไหม ?

แบบใช้ความร้อน
ทำงานโดยการใช้ความร้อนเป่า เพื่อให้น้ำระเหยออกจากมือ โดยเวลาเฉลี่ยในการทำให้มือแห้ง จะอยู่ที่ประมาณ 47 วินาที แนะนำให้โบกมือขึ้นลง ผ่านช่องความร้อนของเครื่องเป่ามือ เชื้อโรคอาจถูกทำลายได้ง่ายขึ้น และมือจะแห้งเร็วขึ้นกว่าเดิม

แบบใช้พลังงานลม
เครื่องเป่าที่ทำให้มือแห้งด้วยพลังงานลมนั้น จะใช้แรงเฉือนเพื่อผลักให้โมเลกุลของน้ำ กระจายตัวออกจากมือ ซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่า เฉลี่ยประมาณ 10 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน

เลือกเครื่องเป่ามืออัตโนมัติ ควรดูอะไรบ้าง ?

ระบบการทำงาน
เครื่องเป่าแห้งมืออัตโนมัติ แบบใช้พลังงานลม น่าจะเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สุดในปัจจุบัน เพราะทำให้มือแห้งเร็วกว่าแบบความร้อนถึง 5 เท่า จึงไม่ต้องรอคิวนาน ไม่ทำให้สถานที่คับคั่ง ไม่เกิดการรวมกลุ่มของผู้คนที่รอใช้เครื่องเป่ามือ เชื้อโรคจึงไม่สะสม หรือแพร่กระจาย

ชนิดของมอเตอร์
มอเตอร์ของเครื่องเป่ามือ จะมี 2 รูปแบบหลัก คือแบบที่มีแปรงถ่าน (Brushed motor) และแบบไร้แปรงถ่าน (Brushless motor) ซึ่งแปรงถ่านจะเป็นส่วนที่สัมผัสระหว่างขดลวดกับแม่เหล็ก ทำให้เกิดการเสียดสี มีเสียงดัง และอาจเกิดประกายไฟระหว่างหมุน ดังนั้นมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน จึงเหมาะกับการใช้งานมากกว่า และยังช่วยประหยัดไฟมากกว่าด้วย

ความเร็วรอบ
หากมอเตอร์มีประสิทธิภาพสูง จะสามารถปั่นได้เร็วกว่า 20,000 – 25,000 รอบต่อนาที ซึ่งจะช่วยสร้างพลังงานลมที่แรงขึ้น ทำให้เป่ามือให้แห้งได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควรคำนึงถึง โดยเฉพาะการติดตั้งในสถานที่ ที่มีคนพลุกพล่านตลอดวัน

เสียงรบกวน
เสียงที่เกิดจากเครื่องเป่ามือนั้น เป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะเป็นเสียงที่เกิดจากลมแรง กระทบกับมือหรือผนังกั้นของเครื่อง แต่ระดับเสียงที่เกิดขึ้นมักต่ำกว่า 80 เดซิเบล หรือประมาณเสียงบนท้องถนนในช่วงที่มีจราจรติดขัด ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

ความทนทาน
วัสดุของตัวเครื่อง ควรเลือกแบบที่มีความทนทานสูง อย่างสเตนเลสเกรด 304 ที่ทนต่อการเกิดสนิม หรือพลาสติกเอบีเอส (ABS) ที่มีความแข็งแรง ทนต่อความร้อนสูงถึง 220 องศาเซลเซียส ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น

เครื่องเป่ามือยี่ห้อไหนดี

ตัวกรองอากาศ
แผ่นกรองอากาศหรือ HEPA Filter นั้น เป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่จะช่วยฟอกอากาศที่ดูดเข้าไปในเครื่องเป่ามือ เชื้อโรคถูกกำจัดได้มากขึ้น ลมที่เป่าออกมาจึงมีความบริสุทธิ์มากขึ้น อย่างเครื่องของ PURE SERV รุ่น PS-507 ที่ใช้นวัตกรรม Double HEPA Filter กรองเชื้อโรคถึง 2 ชั้น ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ขึ้นกว่าเดิมเกือบ 90%

แบรนด์คุณภาพ
ปัจจัยข้อสำคัญที่จะลืมนึกถึงไม่ได้เลย หากต้องการเลือกซื้อเครื่องเป่ามือแห้งอัตโนมัติ คือการเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง อย่างเครื่องเป่าแห้งมือของเพียว เซิร์ฟ ที่ถูกเลือกใช้งาน และได้รับความไว้วางใจให้ติดตั้งในสถานที่สำคัญหลายแห่ง มีประสิทธิภาพสูง เป่ามือแห้งเร็ว แต่กินไฟน้อย พร้อมมีการรับประกันคุณภาพอีกด้วย

เครื่องเป่ามืออัตโนมัติ รุ่น PS-507

สรุป

เครื่องเป่ามือแบบอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่ง ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับชีวิตยุคนี้ เพราะจะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคที่มือ ทำให้การแพร่กระจายของเชื้อลดลง โดยเทคนิคในการเลือกซื้อนั้น ควรคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น มอเตอร์, ระดับเสียง, วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง, ตัวกรองอากาศ แต่ที่จะลืมนึกถึงไม่ได้เลย คือแบรนด์ที่เลือกต้องมีคุณภาพ อย่างเครื่องเป่าแห้งมือของ PURE SERV ที่ผลิตจากโรงงานคุณภาพ มาตรฐานสูง ใช้งานสะดวก เป่ามือแห้งได้จริง ในเวลาอันรวดเร็วแน่นอน

PURE SERV ดูแล…ด้วยความจริงใจ 

LINE : @pureserv https://lin.ee/ldAlMFf